อาการติดหวาน รู้ว่าไม่ดีแต่ห้ามได้ยากมากๆ แค่กินของคาว ก็อยากของหวานแล้ว แต่เราจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เพราะติดหวานเกินไป ทำลายสุขภาพกว่าที่คิด วันนี้ Calforlife เลยจะพาทุกคนไปรู้กันว่าติดหวานมากเกินไป เสี่ยงต่ออะไรบ้าง?
1. เกิดไขมันสะสม
ในอาหารหรือเครื่องดื่มรสหวานมักจะมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณที่มาก หากเราเป็นคนที่ติดหวานก็ยากที่จะลดหรืออดมันได้ เพราะความอร่อยมันทำให้เราหยุดไม่ได้ และต้องการหวานอยู่เรื่อยๆ โดยรู้หรือไม่ว่า น้ำตาล 1 ช้อนชา ให้พลังงานถึง 16 กิโลแคลอรี การที่เรากินน้ำตาลมากเกินไป จะไปสะสมเกิดเป็นไขมันที่อยู่ในร่างกายเรา
2. เสี่ยงต่อการเป็นความดันโลหิตสูง
เมื่อการกินหวานมากเกินไป ทำให้เกิดไขมันสะสม ก่อให้เกิดโรคอ้วนแล้ว สิ่งที่จะตามมาติดๆ เลยนั่นคือ ระดับความดันในเลือดสูง ก่อนที่จะเกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกเราควรหลีกเลี่ยงหรือลดน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มลง
3. เสี่ยงต่อไขมันพอกตับ
เมื่อน้ำตาลในร่างกายเราสูงขึ้น ตับจึงนำน้ำตาลที่สะสมอยู่มาเก็บในรูปของไขมันสำหรับพลังงานสำรอง ซึ่งหากเรายังกินน้ำตาลในปริมาณที่มากก็จะส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับได้
4. ตับอ่อนทำงานหนัก
ตับอ่อนมีหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งหากเราทานน้ำตาลที่มีปริมาณมากๆ เกินความต้องการ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือกพุ่งสูงขึ้น อาจจะส่งผลต่อการทำงานของตับอ่อน ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
5. ผิวโทรม ไม่สดใส
เพราะการทานรสหวานส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เมื่อน้ำตาลสูงขึ้นร่างกายจะหลั่งอินซูลินออกมา และเมื่ออินซูลินสูงขึ้นจะกระตุ้นทำให้ผิวหนังหนาขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการอุดตันของไขมันใต้ผิวหนังจนทำให้เกิดสิวได้
อยากมีสุขภาพที่ดี ไม่เสี่ยงต่อโรคมากมาย อย่าลืมหลีกเลี่ยงและลดหวานกันนะคะ อาจจะเริ่มลดลงทีละน้อยๆ ก่อน จนสามารถควบคุมการทานหวานได้ เพียงเท่านี้เราก็จะได้สุขภาพที่ดียิ่งขึ้น และหากใครอยากรู้ปริมาณแคลอรี่ในอาหารแต่ละเมนู สามารถมาใช้งานได้ในไลน์ @calforlife แอดเลย https://lin.ee/0Q7Dvw3
เราต้องรู้แหล่งที่มาของวิตามินแต่ละชนิด ว่าสามารถหาได้จากที่ไหนบ้าง และมีส่วนช่วยในเรื่องอะไร ซึ่ง c
เราจะมาเปรียบเทียบกันให้ทุกคนได้รู้กัน ว่าคาร์โบนาร่ามีลักษณะอย่างไร และต่างจากอัลเฟรโด้อย่างไร
Acai Bowl เมนูยอดฮิตจากโซเชียล รสชาติสดชื่นและดีต่อสุขภาพ เอาใจสาย Healthy